รัฐบาลปัจจุบันในยุคพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาได้ส่งเสริมให้โรงงานอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 21 ของไทยที่มีนับแสนรายให้เป็นโรงงานสีเขียวทั้งหมดซึ่งหนึ่งในนั้นคือบริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มในแบรนด์สินค้าซันโทรี่และเป๊ปซี่โคได้ดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ Growing for Good ยึดมั่นในหลัก 3 อาร์ และ 1 ที ในกระบวนการทำงานเพื่อก้าวไปสู่การเป็นโรงงานสีเขียวเต็มร้อย
โดยได้เชิญผู้สื่อข่าวไปเยี่ยมชมโรงงานที่สระบุรีที่บริษัทมุ่งมั่นลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยระบบออโตเมชั่น เพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนเกี่ยวกับการรักษาสภาพแวดล้อม นายเพิ่มศักดิ์ไกรสรพงษ์ ผอ.ฝ่ายซัพพลายเชน ของบริษัทได้เผยว่าโรงงานของกลุ่มพร้อมด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงจากเยอรมนีควบคุมการผลิตด้วยระบบออโตเมชั่นเต็มรูปแบบโดยมีกำลังการผลิตสูงสุดกว่า 800 ขวดต่อนาที
ประการสำคัญคือเป็นโรงงานระบบปิดตลอดกระบวนการผลิตตั้งแต่การขึ้นรูปขวดพีอีที ผสมเครื่องดื่มบรรจุขวด ปิดฝา ติดฉลาก และการแพ็กบรรจุภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ภายใต้โรงงานที่มีมาตรฐานความปลอดภัยของอาหารระดับโลก เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าเครื่องดื่มของซันโทรี่ เป๊ปซี่โค นั้นสะอาดและปลอดภัยเต็มที่โรงงานแห่งแรกที่ระยองในเขตอีอีซีมี 9 สายการผลิตส่วนโรงงานแห่งที่ 2 ที่สระบุรีมี 4 สายการผลิต
ทั้งนี้บริษัทจัดงบประมาณ 1,500 ล้านบาทสำหรับขยายโรงงานในเฟสต่อๆ ไป เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคในอนาคตโดยหลัก 3R ได้แก่Reduce-Reuse-Recycle และ 1T คือ Technology ในการทำงาน เริ่มจากการเดินหน้าใช้ขวดพีอีทีที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ทั้ง 100% และมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีร่วมกับคู่ค้าจนเกิดเป็น light weight plastic ซึ่งเป็นการใช้ปริมาณพลาสติกลดลงสำหรับการผลิตขวดแต่ละขวด
ที่ยังคงคุณสมบัติดีตามมาตรฐานบรรจุภัณฑ์ทั้ง2 ค่าย ต่างมีวิสัยทัศน์ในการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกอย่างยั่งยืนโดยมีเป้าหมายการใช้บรรจุภัณฑ์ทั่วโลกที่สามารถ รีไซเคิล สลายตัวและย่อยสลายทางชีวภาพได้ 100% ภายในปี 2568 และ 2573 ตามลำดับด้านโรงงานผลิตเครื่องดื่มซันโทรี่เป๊ปซี่โคเป็น “โรงงานสีเขียว” สามารถอนุรักษ์พลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมได้ตั้งแต่ขั้นการออกแบบก่อสร้างที่ตามมาตรฐาน Leadership in Energy and Environmental Design ระดับซิลเวอร์
เน้นการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิหลังคาที่สามารถดูดซับความร้อนได้ดี ทิศทางของโรงงานควรหันทางด้านใด จนถึงการใช้อาคารในการปฏิบัติงานจริงบวกกับการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ติดตั้งหลอดไฟ LED ประหยัดไฟฟ้า และเทคโนโลยีในสายการผลิตที่มุ่งเน้นการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กระบวนการผลิตในปัจจุบันสามารถลดปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ 14% เมื่อเทียบกับปีก่อน
บริษัทได้ใช้ทรัพยากรน้ำลดลงถึง 35% เมื่อเทียบกับปี 2562 ในปี 2561 โรงงานสระบุรีได้รับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 3 ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่โรงงานที่มีการพัฒนาเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นับได้ว่าบริษัทได้บริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ มีการติดตามและประเมินผลก้าวสู่โรงงานที่รักษาสภาวะสิ่งแวดล้อมตามนโยบายของรัฐบาล
เราเชื่อว่าขณะนี้โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วประเทศ ก็เดินหน้าพัฒนาเพื่อไปสู่เป้าหมายอุตสาหกรรมสีเขียวเพื่อช่วยให้สิ่งแวดล้อมของประเทศ มีคุณภาพดีขึ้นกว่าเดิม
"บรรจุภัณฑ์" - Google News
September 01, 2020 at 02:00AM
https://ift.tt/3bawXUK
คอลัมน์การเมือง - ยกระดับโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
"บรรจุภัณฑ์" - Google News
https://ift.tt/3eLJ9eX
No comments:
Post a Comment